รีวิว Notability แอปจดเลคเชอร์บน iPad

เชื่อว่าจหนึ่งในจุดประสงค์หลักของนักเรียนนักศึกษาหลายคนในการใช้ iPad ก็คือจะนำมาจดโน้ต จดเลคเชอร์ในเวลาเรียน ด้วยความที่สะดวกต่อการจัดการมากกว่าในสมุด แต่จะใช้แอปอะไรจดเลคเชอร์ดีล่ะ ใน App Store ก็มีแอปจดโน้ตให้เลือกหลายแอป แต่วันนี้เราจะมารีวิว Notability แอปยอดนิยมกัน

ก่อนอื่น แอปจดเลคเชอร์ที่ดีควรมีอะไรเป็นพื้นฐานบ้าง แต่ละคนคงมีคำจำกัดความแตกต่างกัน สำหรับผมคือจะต้องแบ่งโน้ตเป็นเล่มๆ ได้ ต้องแบ็คอัพโน้ตได้ และต้องแชร์เป็นไฟล์ PDF ได้ด้วย ซึ่ง Notability ก็มีคุณสมบัติครบตามเกณฑ์ข้างต้น

การจัดการโน้ตใน Notability จะมองเป็นหัวข้อ (subject) และในหัวข้อนั้นก็จะมีโน้ตแยกเป็นไฟล์ ซึ่งเราก็สามารถรวม subject เข้าด้วยกันเป็นกลุ่ม (divider) ได้อีกระดับหนึ่งด้วย ถ้าอธิบายง่ายๆ ก็เหมือนเอา divider มาแบ่งเป็นเทอม และในแต่ละเทอมก็จะมี subject เป็นแต่ละวิชานั่นเอง

การจดโน้ตเราสามารถสร้างโน้ตขึ้นมาใหม่ หรืออิมพอร์ตไฟล์ PDF มาเปิดแล้วจดลงไปก็ได้ นอกจากจะขีดเขียนได้แล้ว ยังพิมพ์ข้อความ เปลี่ยนสีและลวดลายกระดาษได้ระดับหนึ่ง และสามารถจัดเรียงหน้าได้ด้วย

สีของปากกาและไฮไลท์สามารถเปลี่ยนได้อิสระ สามารถปรับขนาดเส้นได้ สามารถวาดสี่เหลี่ยม วงกลม เส้นตรงได้เมื่อลากเส้นค้างไว้ และก็ยังมีเครื่องมือกรรไกรสำหรับลากคลุมเส้น ข้อความ รูปภาพที่เอามาแปะ เพื่อลบ ย้าย หรือปรับขนาดเส้นได้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำให้การจดบันทึกสะดวกกว่าบนสมุด

ในระหว่างจดโน้ตเราสามารถบันทึกเสียงไปในตัวได้ด้วย และจุดเด่นหนึ่งของ Notability ก็คือ เวลาเรามาเปิดเสียงฟัง ตัวแอปจะค่อยๆ แสดงการขีดเขียนของเราไปพร้อมๆ กันกับเสียงที่อัดด้วย ว่าณ ตอนนั้นเรากำลังเขียนตรงไหนอยู่ เรียกว่าเป็นฟีเจอร์ที่ละเอียดและคิดมาดีมาก

อีกฟีเจอร์หนึ่งที่เป็นตัวช่วยในการเขียนได้ก็คือแว่นขยาย ที่เป็นอีกหน้าต่างออกมาให้เราได้เขียนสะดวกขึ้น แต่ก็ยังคงเห็นภาพกว้างๆ ของหน้ากระดาษ ฟีเจอร์นี้จะต่างจากการซูมไปตรงๆ เลยก็ที่มันจะขยับบริเวณที่ซูมให้อัตโนมัติเวลาเราเขียนใกล้สุดขอบของแว่นขยาย และยังมีปุ่มให้กดเพื่อขึ้นบรรทัดใหม่ได้สะดวกอีกด้วย

ลายเส้นที่เขียนสามารถถูกแปลงเป็นข้อความตัวอักษรได้ ด้วยใช้กรรไกรลากคลุมบริเวณที่ต้องการ แล้วเลือกแปลงเป็นตัวอักษร ฟีเจอร์นี้รองรับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเลย และก็ยังมีภาษาอื่น เช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เยอรมัน เป็นต้น

นอกจากฟีเจอร์ด้านการเขียนแล้ว เรายังสามารถแปะรูปภาพ, GIF, กระดาษโน้ต และหน้าเว็บได้ด้วย ซึ่งในการแปะหน้าเว็บก็จะเป็นสกรีนช็อตของเว็บ ที่เราสามารถเข้าไปดูเว็บจริงและเปลี่ยนหน้าใหม่ได้ตามที่ต้องการ

ในการแชร์โน้ต เราสามารถเลือกปลายทางเช่นอีเมล, Dropbox, Google Drive, OneDrive และ WebDav ได้ โดยจะเลือกแชร์เป็น PDF, RTF หรือเป็นไฟล์ Notability ไปเลยก็ได้ นอกจากนี้ยังเลือกเฉพาะบางหน้าที่ต้องการได้ด้วย

Notability รองรับการซิงค์ข้อมูลกับ iCloud เพื่อให้ข้อมูลบนเครื่องอื่นๆ เช่น iPhone และ Mac อัปเดตตามไปด้วย หรือจะสำรองข้อมูลขึ้น Dropbox, Google Drive, OneDrive, Box และ WebDav ก็ได้ แต่จะเป็นการสำรองข้อมูลแบบทางเดียว (one-way) คือแอปจะอัปโหลดไฟล์ขึ้นไปบนคลาวด์ที่เลือก ถ้าลบโน้ตในแอปหรือในคลาวด์ ก็จะไม่มีผลต่อกัน เพราะแอปจะทำได้แค่อัปโหลดขึ้นไปเท่านั้น

Notability ถือเป็นแอปจดเลคเชอร์ที่มีความสามารถครบครันแอปหนึ่ง ที่มีคู่แข่งสำคัญคือ GoodNotes ซึ่งก็มีความสามารถครบครันไม่แพ้กัน ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าเราจะมารีวิวแอป GoodNotes กันครับ ส่วนตอนนี้ใครกำลังใช้แอปไหนจดเลคเชอร์อยู่มาคอมเมนต์กันด้านล่างได้เลย